ตาล้า จาก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

You are here:

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหมคุ้มหรือไม่

          สวัสดีค้าเตย นะค้า วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่มีโอกาศได้แก้ไขปัญหาชั้นตามาค่ะคือ ช่วง 3-4 ที่ผ่านมา เตยลุยงานหนักมาก หลายโปรเจค เพราะเราเป็นคนค่อนข้างชอบทำงานอยู่แล้ว ก็จะมีเวลาพักผ่อนน้อย หลังจากลุยงานไปได้สักพักนึง คนรอบตัวก็เริ่มทักแล้วว่า ตาดูเนือย ดูเหนื่อยๆ เราก็เริ่มมองตัวเองก็รู้สึกว่าดูตาปรือจริง แต่ก็คิดว่าอาจจะมาจากการทำงานหนักของเรา
จนกระทั่ง ก็มีโอกาศได้พักจากที่ลุยงานมากหนัก ก็ได้เที่ยวพักผ่อน ถ่ายรูปกับเพื่อนๆบ้าง

          แต่หลังตอนนี้ล่ะค่ะทุกคน พอเตยได้เช็ครูปที่ถ่ายออกมา คือ เห็นได้ชัดเลยว่าตาปรือมากทุกรูป ว่าดูหน้าตา และตาเราอ่อนเพลียสุดๆ จนก็เริ่มเอะใจ แล้วก็เริ่มสังเกตอีกว่า เวลากระพริบจากหลังๆแล้วส่องกระจก ก็รู้สึกว่า ชั้นตาเดียว มี 2 ชั้น บ้าง 3 ชั้น บ้าง แถมบางครั้ง เวลากระพริบ รู้สึกตาเหนื่อย เพลีย หนักๆ ช่วงตา

          เลยกังวล เสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาตาของเรา ก็มีหลายกระทู้ หลายเว็บไซต์เลยที่ให้ข้อมูลไว้ว่า เป็นอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานบ้าง ความอ่อนเพลียสะสม แต่ก็มีอีกเว็บไซต์นึงให้ข้อมูลว่า อาการตาปรือ
เราก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับ การรักษาชั้นตาของเรา คราวนี้ล่ะ ยิ่งหาข้อมูลเยอะ บวกกับปรึกษาเพื่อนๆด้วย  ทุกคนก็แนะนำให้เราไปทำตาชั้นสอง เพื่อนๆ เรารอบตัวก็แนะนำว่าให้ไปทำกับคุณหมอธีร์ Facebody clinic ตรงเอกมัย  ซึ่งเพื่อนที่แนะนำเราก็ไปให้คุณหมอแก้ไขชั้นตาที่เดียวกันหมดด้วย ก็เลยมั่นใจขึ้นมาระดับนึงเลย เพราะชั้นตาของเพื่อนก็สวยธรรมชาติด้วย ก็เลยอยากรีบไปพบคุณหมอเลยค่ะ

          หลังจากนั้นเตยก็ทักไปทางคลินิก และนัดวันพบคุณหมอธีร์เลยค่ะ คุณหมอก็ซักประวัติเราหมดเลย ได้ใช้ตาหนักขนาดไหน หรือเคยทำอะไรกับชั้นตามามั้ย เตยก็บอกคุณหมอหมดเลยค่ะ ว่าทำงานหนักอย่างเดียวเลย หลังจากที่คุณหมอประเมินก็พบว่า สาเหตุที่เราตาปรือ เกิดจากอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แล้วก็อธิบายให้ความรู้เยอะมากเกี่ยวกับชั้นตา  เตยอยากจะบอกเลยว่า คุณหมอให้คำปรึกษาดีมากกกกกก ไม่มีขายเลย ให้ความรู้เน้นๆ ว่าปัญหาตาแบบเราจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างๆรบ้าง ต้องดูแลหลังทำยังไง ก่อนตัดสินใจทำคุณหมอก็บอกว่า การแก้ไขชั้นตาเคสของเรา ถึงอาจจะไม่ยากมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาในการทำหน่อยนะครับ เพราะจริงๆแล้วการศัลยกรรมก็คืงานศิลปะอย่างนึงเหมือนกัน มันต้องใส่ใจ อต้องใช้ความปราณีตและรายละเอียดสูง จะรีบทำมากไม่ได้ ปัญหาชั้นตาของเตย คุณหมอธีร์จะแก้ไขด้วยเทคนิค Scarlez-T ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษที่คุณหมอคิดค้นขึ้นเพื่อให้แก้ไขได้เหมาะกับชั้นตาของคนไทยค่ะ  เทคนิคนี้จะแผลน้อย บวมช้ำน้อย และพื้นฟื้นได้ไว และหลังจากได้คุณหมออธิบายเสร็จหมดทุกอย่าง ก็เลยตัดสินใจนัดวันทำเลยค่ะ

          อันนี้เป็นรูปก่อนทำของเตยนะคะ ชั้นตาที่ปรือเห็นได้ชัดเลยค่ะและจะบอกก่อนเลยว่า อันนี้เป็นศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ ตอนแรกแอบกังวลไป กังวลมา ว่าจะออกมาเป็นยังไงน้า ไม่รู้กังวลท่าไหนเหมือนกัน ก็ปรึกษาคุณหมออีกรอบว่าทำอย่างอื่นด้วย จะได้พักฟื้นทีเดียวเลย สิ่งที่เตยทำ ก็คือ “เสริมจมูก” นั้นเองค้า  ไหนๆก็ทำแล้วเนอะ เลยพักฟื้นทีเดียว ซึ่งก็ได้แจ้งและบอกคุณหมอแล้วว่า Key ของเตยคือ “อยากให้ ทำแล้วทุกอย่างยังคงที่เป็นเราไว้ ไม่อยากให้ทำให้หน้าเปลี่ยนมาก คงความเป็นเราไว้อยู่ ไม่ได้อยากตาเป็นใคร อยากให้ตายังดูเป็นเราอยู่”  คุณหมอธีร์ก็บอก “ ได้เลยคร้าบบบบ “

          พอใกล้ถึงวันจะผ่าตัดจริงๆก็ตื่นเต้นสุดๆ ก็มีโทรไปถามพี่ คอนเซ้าท์ที่ดูแลว่าของเอาน้องตุ๊กตาไปด้วยได้ไหม อยากพาน้องมาให้กำลังใจมาด้วย เราจะได้คลายกังวลน้อยลง พี่เค้าบอกว่าได้ค้า เย้ เราก็ใจชื่นขึ้นมาอีกเยอะเลย น้องชื่อ “  M J ” เอ็ม เจ  น้องน่ารักมั้ยค้า  แถมก่อนเข้าห้องผ่าตัด ได้ถ่ายรุปทำประวัติน้องๆดูคอมฟอร์ทกับเรามาก เลยยิ่งอุ่นใจขึ้นไปอีก ^^

          อันนี้เป็นรูปก่อนทำของเตยนะคะ ชั้นตาที่ปรือเห็นได้ชัดเลยค่ะและจะบอกก่อนเลยว่า อันนี้เป็นศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ ตอนแรกแอบกังวลไป กังวลมา ว่าจะออกมาเป็นยังไงน้า ไม่รู้กังวลท่าไหนเหมือนกัน ก็ปรึกษาคุณหมออีกรอบว่าทำอย่างอื่นด้วย จะได้พักฟื้นทีเดียวเลย สิ่งที่เตยทำ ก็คือ “เสริมจมูก” นั้นเองค้า  ไหนๆก็ทำแล้วเนอะ เลยพักฟื้นทีเดียว ซึ่งก็ได้แจ้งและบอกคุณหมอแล้วว่า Key ของเตยคือ “อยากให้ ทำแล้วทุกอย่างยังคงที่เป็นเราไว้ ไม่อยากให้ทำให้หน้าเปลี่ยนมาก คงความเป็นเราไว้อยู่ ไม่ได้อยากตาเป็นใคร อยากให้ตายังดูเป็นเราอยู่”  คุณหมอธีร์ก็บอก “ ได้เลยคร้าบบบบ “

          พอใกล้ถึงวันจะผ่าตัดจริงๆก็ตื่นเต้นสุดๆ ก็มีโทรไปถามพี่ คอนเซ้าท์ที่ดูแลว่าของเอาน้องตุ๊กตาไปด้วยได้ไหม อยากพาน้องมาให้กำลังใจมาด้วย เราจะได้คลายกังวลน้อยลง พี่เค้าบอกว่าได้ค้า เย้ เราก็ใจชื่นขึ้นมาอีกเยอะเลย น้องชื่อ “  M J ” เอ็ม เจ  น้องน่ารักมั้ยค้า  แถมก่อนเข้าห้องผ่าตัด ได้ถ่ายรุปทำประวัติน้องๆดูคอมฟอร์ทกับเรามาก เลยยิ่งอุ่นใจขึ้นไปอีก ^^

          และแล้วก็ครบ 1 เดือน ก็ได้เข้าคลินิกไป Follow up กับคุณหมอธีร์ เราก็แอบแต่งหน้าเบาๆ ก่อนไปคลินิก อิอิ 

          พอเข้ามาพี่ๆ น้องๆ พนักงาน และก็คุณหมอ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “สวยมากกกกกกกกก”  ปลิ้มใจสุดๆเลยค่ะ หลังจาก Follow up กับคุณหมอเสร็จ ก็อาการปกติเลยค่ะ คุณหมอให้ดูแผลชัดๆ แผลสวยมาก แล้วก็ไม่มีอาการอะไรเลย และได้แจ้งเตยว่า ช่วงนี้ท่าทางที่ดีแนะนำเป็นครอบตานอนก่อนเพราะถึงแม้จะ 1 เดือนแล้ว แต่แผลข้างในยังไม่ 100% ให้เซฟๆ ป้องกันไว้ก่อน แผลจะได้สวยและชิดสนิท

          พอเข้าเดือนที่ 2 เริ่มนัดเพื่อนและแต่งหน้าไปแต่งลั้ลลาแล้ว  เก็บตัวนานมากไม่ได้เจอใครเลย ถือว่าได้พักผ่อนไปในตัว  พอได้เจอเพื่อน ทุกคนก็ทัก แอบไปทำไรมารึป่าว ตาดูหวานขึ้นดูไม่ปรือแล้ว จมูกก็ดูสวยขึ้นนะ ไปทำไรมารึเปล่า เอ๊ะรึยังไง เราก็บอกแต่กับเพื่อนสนิทนะคะว่าแก้ไขปัญหาชั้นตาและทำจมูกกับคุณหมอธีร์มาด้วยค่ะ ซึ่งตอบโจทย์เรามากๆว่าอยากได้เป็นแบบ หลังทำแล้วดูธรรมชาติมากที่สุด คงความเป็นเราไว้ ไม่อยากให้หน้าเปลี่ยน หรือดูเป็นใคร ให้ดูเป็นเราเหมือนเดิม ซึ่งก็ตอบโจทย์มากๆเลยค่ะ ตอนนี้แฮปปี้สุดๆเลย ตัดสินใจถูกมากที่ไปแก้ไขปัญหากับคุณหมอธีร์ ที่เป็นจักษุแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง แก้ไขปัญหาได้ถูกจุดและตรงใจสุดๆเลย ประทับใจฝีมือคุณหมอและทางคลินิกมากๆเลยค่ะ เดียวกระทู้หน้าจะรีวิวอะไรอีก รอชมกันเลยน้า

ที่มา : PANTIP.COM