เซลล์ต้นกำเนิด เน้นการฟื้นซ่อมแซมเซลล์
เซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) คือเซลล์ที่ยังไม่มีหน้าที่จำเพาะในร่างกาย สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ได้ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์กระดูก หรือเซลล์ประสาท มีคุณสมบัติสำคัญ สามารถแบ่งตัวเองได้เป็นเวลานาน ไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะเจาะจง สามารถเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่จำเพาะเจาะจงได้
สเต็มเซลล์ยังช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูสุขภาพในโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคข้อเสื่อม และโรคระบบประสาท รวมถึงฟื้นฟูสุขภาพในผู้ป่วยที่มีภาวะเสื่อมจากวัยหรือโรคเรื้อรัง ทำให้สเต็มเซลล์กลายเป็นทางเลือกสำคัญในทางการแพทย์ยุคใหม่
ข้อดีของการใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือและเนื้อเยื่อสายสะดือ
- มีความเข้ากันได้ทางพันธุกรรม เหมาะสำหรับตัวเด็กและครอบครัว
- ปราศจากโรคติดเชื้อ เพราะเซลล์ยังไม่เคยสัมผัสเชื้อ
- กระบวนการเก็บปลอดภัย ไม่มีความเจ็บปวดสำหรับแม่และเด็ก
- สามารถเก็บรักษาได้นาน โดยการแช่แข็งเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ
ประโยชน์ของสเต็มเซลล์ในทางการแพทย์
สเต็มเซลล์มีศักยภาพในการทดแทนเซลล์เก่าที่เสียหายและเปลี่ยนตัวเองเป็นเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์ตับอ่อน เซลล์ประสาท และเซลล์เม็ดเลือด นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบทั่วร่างกายผ่านการหลั่งสาร Interleukin และ Cytokine ซึ่งสามารถยับยั้งการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของโรครุนแรง เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Autoimmune)
ทดแทนเซลล์ที่เสียหาย เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์ประสาท เซลล์ตับอ่อน
- ลดการอักเสบทั่วร่างกาย ผ่านการหลั่งสาร Interleukin และ Cytokine
- ฟื้นฟูและชะลอวัย เช่น ลดริ้วรอย จุดด่างดำ กระฝ้า หรือกระตุ้นรากผม
- รักษาโรคร้ายแรงและโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขข้อ
สเต็มเซลล์เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีโรคเสื่อมสภาพ จากวัย เช่น โรคข้อเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยสร้างเส้นเลือดใหม่
- ผู้ป่วยโรคทางระบบประสาท เช่น พาร์คินสัน อัลไซเมอร์
- ผู้ป่วยโรคไตวาย ช่วยลดค่า Creatinine
- ผู้ที่ต้องการบำบัดฟื้นฟูสุขภาพหลังโควิด-19
ขั้นตอนการฉีดสเต็มเซลล์ทางหลอดเลือดดำ
- ตรวจร่างกาย และวางแผนการรักษากับแพทย์
- นัดตรวจสุขภาพล่วงหน้า โดยงดน้ำและอาหาร 12 ชั่วโมง
- ทดสอบการแพ้ทางผิวหนัง ใช้เวลา 15-20 นาที
- ฉีดสเต็มเซลล์ ทางหลอดเลือดที่แขน ใช้เวลา 30-45 นาที
- สังเกตอาการหลังฉีด 30 นาที และรับคำแนะนำการดูแลสุขภาพ
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังฉีดสเต็มเซลล์
- แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยา
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 8-12 ชั่วโมง
- ลดอาหารมันและของทอด ก่อนและหลังการรักษา 3 วัน
- งดเดินทางไปในสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 1-2 วัน
คำแนะนำ
ควรรับบริการฉีดสเต็มเซลล์ซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการฟื้นฟูและชะลอวัย สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebody Wellness Center. ในด้านการฟื้นฟูและชะลอวัย สเต็มเซลล์มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพทั้งร่างกายและเฉพาะจุด เช่น ลดริ้วรอย จุดด่างดำ กระฝ้า และกระตุ้นรากผม ประโยชน์เสริมในการรักษาเฉพาะจุด ได้แก่ การฉีดสเต็มเซลล์ในข้อเข่าเพื่อลดอาการปวด เพิ่มความยืดหยุ่น และการฉีดสเต็มเซลล์ในหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการงอกของเส้นผม