รีวิวปลูกผม หน้าผากกว้าง (มาก) แก้ไขด้วยการปลูกผม

You are here:

          บอกเล่าประสบการณ์ปลูกผม ของคนปัญหาหน้าผากกว้าง สวัสดีค้าบเพื่อนๆที่กำลังหาข้อมูลหรือกำลังตัดสินใจที่จะปลูกผมอยู่นะครับ ชื่อผม ปังปอนด์นะครับ วันนี้อยากจะมารีวิวประสบการ์ณการปลูกผมของปอนด์

ขอเล่าย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีก่อนนะครับ เมื่อตอนช่วงอายุ 25-26

          ผมบริเวณด้านหน้าของปอนด์เริ่มบางลงอย่างเห็นได้ชัดเราก็คิดว่าเราเครียดหรือเปล่า เพราะช่วงนั้นทำงานหักโหมก็เลยหาวิตามินบำรุงผมมาทาน ไปซื้อเซรั่ม ยาสระผมต่างๆ ที่เขาโฆษณามาดีเราก็ลองมาตลอด แต่เหมือนมันช่วยแค่หยุดร่วง แต่ความบางยังคงอยู่ ปีต่อมาก็หยุดกิน ผมก็ไม่ได้ร่วงต่อแล้วแต่ปัญหาที่หนักใจสุดๆคือ ผมมันไม่ขึ้นมาแล้วครับ หายไปเลยมากเป็นรูปตัว M เลย เหมือนพวกเบจิต้า ในการ์ตูน

          คือจะบอกก่อนว่าปัญหานี้ปรึกษาที่บ้านอยู่ด้วยครับ แต่พอมานั่งคุยกันและเห็นทรงผมของคุณพ่อ และญาติที่บ้านก็คิดเลยว่าแก้ยากแล้วล่ะ กรรมพันธุ์เราเป็นหมดเลย ผมข้างหน้าหายไปทุกคน พวกญาติผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชาย หายไปกันเกือบหมดหัว เราก็ยิ่งกังวลอีกพอมาเริ่มสังเกตญาติๆ ก็เลยติดสินใจหาข้อมูลเรื่องปลูกผมครับ คือในหัวไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยครับ
เมื่อ 1 ปี ที่แล้วก็หาข้อมูลไว้เยอะมากก่อนปลูกผม เพราะตัดสินใจได้แล้วว่า ปัญหาของเราต้องปลูกผมแล้ว
หาข้อมูลหลายที่อยู่ใน Google มีหลายเทคนิค ราคาที่หลายหลากกันไป หลายๆเคสก็มีปลูกขึ้นไม่ขึ้นแตกต่างกันไป ก็ทั้งหาข้อมูลทั้งแพนิคไปด้วย จนมาเจอคลินิกนี้ครับ ที่ ปังปอนด์ได้มาปลูกผมจนถึงปัจจุบันแล้ว

          “ Facebody clinic เอกมัย” ของคุณหมอธีร์ ตอนแรกเราก็เห็นว่าคลินิกนี้ดังเรื่องทำตานะ แต่พอไปดูข้อมูลในเว็บ และเพจปลูกผมของทางคลินิกเพิ่มเติม คือ เคสรีวิวเยอะมากกกกกกก ผมขึ้นแน่นหนาทุกคน วัยรุ่นที่มีปัญหาเหมือนปอนด์ เข้าไปปลูกเยอะมาก ก็เลยตาวาวเลย เหมือนมีความหวัง ใจฟูมากขึ้นเลย ลูกค้าปลูกไป ผมขึ้นแน่น รีวิวปัง น่าเชื่อถือได้ เพราะดูเคสดูเรียลมากก็เลยตัดสินใจไปปรึกษาและปลูกผมกับคุณหมอธีร์ครับ

          ปอนด์นัดไปปรึกษาคุณหมอธีร์ ตอนแรกก็เกร็งๆเขิลๆเพราะก็แอบอายที่ตัวเองผมด้านหน้าค่อนข้างบางเลย แต่คุณหมอเป็นกันเองมากครับ คุยกันอยู่นานเลย การปลูกผมที่นี้ก็มีเทคนิคทั้ง DHI FUE นะครับ แต่ของปอนด์ปลูกผมเทคนิค DHI นะครับ ซึ่งผมจะขึ้นหนาแน่นกว่า พอคุยกับคุณหมอเสร็จก็นัดปรึกษาคุณหมอเลยครับ

• วันปลูกผมก็มาถึงครับ ก็มีการตรวจสุขภาพผม หนังศรีษะก่อน

          จริงๆ คุณหมอแจ้งให้เราใช้แชมพูขจัดรังแคและดูแลหนังศรีษะก่อนมาปลูกอยู่แล้วครับ กันปัญหาเป็นเชื้อรา และหนังศรีษะอักเสบจะปลูกไม่ได้ แต่ของปอนด์ไม่ดีมีปัญหาครับ ปลูกได้เลย และก็วาดกราฟก่อนการปลูกผม ของปอนด์คุณหมอประเมิน 2,000 กว่าๆ นะครับ

ตอนเข้าห้องผ่าตัดก็ตื่นเต้นนิดนึง 

          แต่พี่ๆ พยาบาลก็น่ารัก คุณหมอก็พูดคุยด้วยตลอด จะทำขั้นตอนไหนก็คอยแจง ชวนคุยบ้างในช่วงที่ไม่ได้หลับ แต่ส่วนใหญ่ปอนด์ก็หลับตลอดเลยครับ ( ดีแล้วที่หลับ 555555 )

หลังจากตื่นมาก็มึนๆหัวนิดหน่อยนะครับ แล้วก็กลับบ้านไปนอนพักต่ออีก นอนตลอดเลย 55555555

          หลังจากนั้น 2 วัน คุณหมอก็นัดมาล้างแผลครับ จะมีเป็นคราบเลือดติดอยู่ หลังจากล้างหมดคุณหมอก็นัดให้มาฉาย

แสงบำบัด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แล้วทำทรีทเมนต์บำรุงเซลล์รากผมให้ผมเกาะติดแน่นแข็งแรง แล้วก็ทานยาที่คุณหมอจัดให้ครับ

ช่วง 2 สัปดาห์แรกยังมีสะเก็ดเยอะอยู่

          เจ้าหน้าที่พยาบาลก็นัดมาหมักออย แกะสะเก็ด 2 ครั้ง หลังสะเก็ดหลุดหมด ก็เห็นกราฟผมสวยเลย กราฟผมเป็นทรงที่ผมออกแบบกับคุณหมอธีร์เลยครับ
          แต่หลังจากนั้นละครับ ช่วง 1-3 เดือน ผมร่วงหนักมากกกกกกก T^T ร่วงจนกลัวเลยว่ามันจะขึ้นไหม ก็เข้าไปปรึกษาคุณหมออยู่ตลอดครับ คุณหมอธีร์ก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผมร่วงปกติ (ทุกคนที่ปลูกผมจะร่วงกันแล้วแต่บุคคล บางคนร่วง 10% บางคนร่วงเกือบ 90%) แต่รากผมยังอยู่ข้างในไม่ต้องกังวล ให้หมั่นดูแลผมตัวเองทานโปรตีนเยอะๆ ทานยาที่คุณหมอจัดให้ และก็เข้ามาฉายแสง ทำทรีทเมนต์ สม่ำเสมอ เพื่อบำรุงและกระตุ้นรากผมที่อยู่ข้างในหนังศรีษะ

• ปัจจุบันครบรอบ 1 ปีพอดีเลยที่ปอนด์ปลูกผมก็ทาง Facebody clinic กับคุณหมอธีร์ 
          ตอนนี้ผมขึ้นหนาแน่นสุดๆ ดีใจมากๆเลยครับ ไปเที่ยว ไปออกงานต่างๆ ก็มั่นใจขึ้นมากเลย เวลาโดนแสงกระทบไม่หน้าผากใสแล้ว ฟีดแบ็คเพื่อนๆ ก็ชมและให้ความสนใจกันทุกคนว่าอยากมาปลูกผมด้วยเหมือนกัน

          สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหาผมด้านหน้าเถิกบาง หรือหน้าผากกว้างนะครับ ใช้ตัวช่วยอย่างพวกเซรั่มครีมบำรุงผมแล้วไม่ค่อยเห็นผล

          หรือไม่ได้ดีขึ้น อย่ารอช้าเลยครับ เชื่อปอนด์ ไปปลูกผมกับคลินิก ที่ได้มาตรฐานและเจอคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเลยครับ ชีวิตพอมีผมแล้วเปลี่ยนไปเยอะเลย หน้าใบหน้าเด็กลง ความมั่นใจเราก็กลับมาครับ

ที่มา : Pantip.com