ปลูกผม ทางออก
ของผมร่วง ผมบาง

ปลูกผม (Hair Transplant) คืออะไร?

การปลูกผม

การปลูกผม (Hair Transplantation) เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ซึ่งการปลูกผมส่วนใหญ่จะใช้ผมของตัวผู้เข้ารับการปลูกผม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน และกำลังศึกษาเรื่องการ ปลูกผม ซึ่งทางเลือกสุดท้ายที่ดีที่สุดคือการปลูกผม นั่นเอง วิธีปลูกผมก็มีหลากหลายวิธีให้เลือกรักษาที่เหมาะกับตัวบุคคล และการปลูกผม หลักๆ ที่ได้ยอมรับในทางการแพทย์มี 3 วิธี Facebody Clinic จะพามาทำความรู้จักกับ 3 วิธีที่ได้รับการการันตีว่าได้มาตรฐาน “FUT FUE DHI”  และมาพร้อมกับข้อดี-ข้อเสียในแต่ละเทคนิค ที่เหมาะกับการปลูกผมของคุณ

วัฎจักรของเส้นผม (Hair Life Cycle)


วัฎจักรของผมคือการเกิดของผม หลุดร่วง และงอกใหม่ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าหากผมที่หลุดออกไป ไม่งอกใหม่กลับมาต้องแก้ไขยังไง สาเหตุของการเกิด คืออะไร เรา จะพามาทำความรู้จักกับวัฎจักรผมและสาเหตุของการหลุดร่วงของผม

ผมร่วง เกิดจากอะไร?

ผมร่วง เกิดจากการผลัดเซลล์ตามธรรมชาติตาม วัฎจักรของผม (Hair Life Cycle) คือการเกิดของผม หลุดร่วง และงอกใหม่ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าหากผมที่หลุดออกไป ไม่งอกใหม่กลับมาต้องแก้ไขอย่างไร สาเหตุของการเกิดคืออะไร เราจะพามาทำความรู้จักกับวัฎจักรผมและสาเหตุของการหลุดร่วงของเส้นผมกัน

ปลูกผม · ศีรษะล้าน ผมบาง ผมร่วง รักษาได้ที่ Facebody Clinic

ผมร่วงแบ่งได้เป็น 3 ระยะ

1. ระยะแอนนาเจน ( Anagen phase )

เป็นระยะที่เส้นผมมีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวยาวขึ้น เส้นผมบนหนังศีรษะประมาณ 80-90% อยู่ในระยะนี้ และจะอยู่ระยะนี้นาน 2-3 ปีแล้วก็จะเปลี่ยนเข้าสู่ระยะที่ 2

2. ระยะคาตาเจน ( Catagen phase )

เป็นเส้นผมระยะพัก เส้นผมในระยะนี้จะไม่มีการแบ่งตัว บนหนังศีรษะเป็นเส้นผมระยะนี้ประมาณ 1% หลังจากนั้นจะเข้าสู่ระยะที่ 3

3. ระยะเทโลเจน ( Telogen phase )

พบประมาณ 10% บนหนังศีรษะ เป็นเส้นผมระยะหลุด ร่วง หลังจากเส้นผมหลุดร่วงออกไป เส้นผมก็จะเข้าสู่ระยะที่ 1 ใหม่ เวียนไปเรื่อยๆ

สาเหตุของอาการผมร่วง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

1.กรรมพันธุ์

        สาเกตุที่เป็นสาเหตุหลักของอาการผมร่วง คือ กรรมพันธุ์ ซึ่งอาจพบได้มากกว่า 95% และมีโอกาสทำให้เกิดศีรษะล้านแบบถาวร อย่างที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไป ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์มีรูปแบบและลักษณะเฉพาะที่ เป็นเอกลักษณ์ กล่าวคือ

      คนที่เป็นผมร่วงจากกรรมพันธุ์ มักพบว่ามีประวัติคนในครอบครัวหรือญาติ ที่มีศีรษะล้าน ร่วมด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีเสมอไป บางคนบิดามารดาศีรษะไม่ล้าน ส่วนลูกหลานกลับมี ศีรษะล้าน ก็อาจะเป็นได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ควบคุมให้ยีนส์ ศีรษะล้าน แสดงออกหรือไม่แสดงออก และหากเกิดศีรษะล้านแบบถาวรแล้ว จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วย “การปลูกผม” เท่านั้น

1.1 ในผู้ชาย

ผมร่วงในผู้ชาย มักเริ่มจากมีการถอยร่นของแนวผมทางด้านหน้าลึกเข้าไปเป็นง่าม และ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุ บางคนอาจมี “ศีรษะล้านด้านหลัง” ตรงบริเวณขวัญร่วมด้วย สุดท้ายแล้วถ้าผมยังไม่หยุดร่วง ในบริเวณที่ศีรษะล้านทั้ง 2 ข้างจะลามเข้าหากันจนกลายเป็น ศีรษะล้านบริเวณกว้าง ซึ่งจะเป็นมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของคนๆ นั้น

1.2 ในผู้หญิง

สำหรับอาการผมร่วงในผู้หญิงนั้นจะมีรูปแบบแตกต่างจากผู้ชาย คือจะมี ผมบาง เฉพาะตรงบริเวณกลางศีรษะเท่านั้น ส่วนแนวผมด้านหน้ายังคงดีอยู่ไม่ถอยร่นเข้าไปเหมือนในผู้ชาย แต่บางคนอาจมี ศีรษะเถิกแบบผู้ชายก็ได้ โดยมีอาการดังนี้

 คนที่เป็นผมร่วงจากกรรมพันธุ์ มักพบว่ามีประวัติคนในครอบครัวหรือญาติ ศีรษะล้าน ร่วมด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีเสมอไป บางคนบิดามารดาศีรษะไม่ล้าน ส่วนลูกหลานกลับมี ศีรษะล้าน ก็ได้ขึ้นกับปัจจัยที่ควบคุมให้ยีน ศีรษะล้าน แสดงหรือไม่แสดงออก

2 . สาเหตุอื่นๆ

สาเหตุของผมร่วงอีกสาเหตุหนึ่งที่มีโอกาสพบได้น้อย มีด้วยกันหลายโรค โรคที่พบได้บ่อยคือ ผมร่วงชนิดเป็นหย่อม หรือ มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า Alopecia Areata โรคของต่อมไทรอยด์เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ( Toxic goiter ) ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย ( Hypothyroidism ) โรคโลหิตจาง ภาวะหลังคลอด บุตร หลังฟื้นไข้และผ่าตัดใหญ่ การอดอาหารมาก ๆ เพื่อลดน้ำหนัก ความเครียด โรคผิวหนัง บางชนิด โรคจิตที่ชอบถอนผมตัวเอง ( Trichotillomania ) มะเร็ง รังไข่ที่ผลิตฮอร์โมนเพศชาย โรคเอสเอลอี โรคไข้ไทฟอยด์ โรคซิฟิลิส โรคเบาหวาน การเจ็บป่วยเรื้อรัง หรืออาจเกิดจากยา บางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดเพื่อรักษามะเร็ง เป็นต้น

ศัลยกรรมปลูกผมถาวร เทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation)

การปลูกผมแบบ FUT เป็นการปลูกผมถาวร เทคนิคมาตรฐานที่ยังใช้สากลทั่วโลก โดยจะเป็นการตัดเอาหนังศีรษะด้านหลังซึ่งมีรากผมที่แข็งแรงและแทบไม่มีการหลุดร่วงของเส้นผม โดยนำมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา (ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน) ซึ่งการปลูกผมแบบนี้ เป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ไม่ต้องใช้ยาสลบ ใช้แต่การฉีดยาชาเฉพาะบริเวณที่ทำการปลูกย้ายเซลล์รากผมเท่านั้น โดยระยะเวลาในการผ่าตัดนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนรากผมที่ปลูกในแต่ละบุคคล ซึ่งการปลูกผมแบบ FUT นั้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนมาก

ขั้นตอนการปลูกผมถาวร เทคนิค FUT

  1. แพทย์ทำการตรวจเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อประเมินปัญหาของผู้เข้ารับบริการ
  2. แพทย์แนะนำและพูดคุยร่วมกันกับผู้เข้ารับบริการ เพื่อให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด
  3. แพทย์ทำการวาดพื้นที่กราฟที่ต้องทำการปลูก
  4. แพทย์ทำการโกนผมบริเวณที่ต้องการเก็บเกี่ยวเซลล์รากผม
  5. แพทย์ทำการฉีดยาชา และทำการผ่าตัดเล็ก เพื่อนำหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกมา และเย็บปิด
  6. ทำการคัดแยกเซลล์รากผมที่แข็งแรงด้วยกล้อง Microscope เพื่อให้ได้เซลล์รากผมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  7. ทำการเจาะหนังศีรษะเพื่อเตรียมการปักเซลล์รากผม
  8. ทำการปักเซลล์รากผมที่แข็งแรง ลงบนตำแหน่งที่มีปัญหาบริเวณด้านหน้าศีรษะ

ข้อดีเทคนิค FUT

● การปลูกผมถาวร เทคนิค FUT เป็นแผลแบบปิดโอกาสติดเชื้อน้อยกว่า 1%
● การปลูกผมถาวร เทคนิค FUT ใช้ระยะเวลาในการทำเมื่อเทียบกับจำนวนกราฟแล้วใช้เวลาสั้นกว่า
● การปลูกผมถาวร เทคนิค FUT สามารถทำได้ครั้งละมากๆ เช่น เกิน 2,500 กราฟขึ้นไป
● การปลูกผมถาวร เทคนิค FUT สามารถไว้ผมยาวปิดแผลได้ เพราะบริเวณด้านหลังจะโกนผมออกเล็กน้อย เฉพาะบริเวณที่นำชิ้นเนื้อออกมา
● การปลูกผมถาวร เทคนิค FUT เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเป็นบริเวณกว้าง

ข้อเสียเทคนิค FUT

การปลูกผมถาวร เทคนิค FUT เกิดรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด เป็นแนวยาว

ปลูกผม เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)

เป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์รากผมโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยวิธีนี้จะใช้หัวเจาะขนาดเล็กเพียง 0.8-1.2 มม. เจาะลงไปรอบๆ กอผม หรือ กราฟผม ลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง จากนั้นกอผมจะถูกดึงออกมาจากหนังศีรษะ และถูกนำมาคัดแยก เฟ้นหารากผมที่แข็งแรงนำมาปลูกลงในตำแหน่งที่มีปัญหา โดยแพทย์จะทำการเจาะรูสำหรับใส่เซลล์รากผมลงบนหนังศีรษะก่อน และจึงย้ายเซลล์รากผมลงมาปลูกในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งการปลูกผมแบบ FUE นั้นจะไม่มีการผ่าตัดเลย จึงไม่มีแผลเป็นหลังทำ และหนังศีรษะบริเวณที่ถูกนำเซลล์รากผมออกมาก็จะมีผมส่วนที่เหลือขึ้นตามปกติ ทำให้มองไม่เห็นรอยแผล เพียงแค่ผมด้านหลังจะบางลงเท่านั้น เทคนิคการปลูกผมแบบ FUE นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ให้ผลเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ขั้นตอนการปลูกผมถาวร เทคนิค FUE

  1. แพทย์ทำการตรวจเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อประเมินปัญหาของผู้เข้ารับบริการ
  2. แพทย์แนะนำและพูดคุยร่วมกันกับผู้เข้ารับบริการ เพื่อให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด
  3. แพทย์ทำการวาดพื้นที่กราฟที่ต้องทำการปลูก
  4. แพทย์ทำการโกนผม บริเวณที่ต้องการเก็บเกี่ยวเซลล์รากผม
  5. แพทย์ทำการฉีดยาชา และใช้เครื่องมือที่เป็นหัวเจาะ ขนาดประมาณ 0.8-1.2 มม. เจาะเลือกเซลล์รากผมที่แข็งแรงออกมา
  6. ทำการคัดแยกเซลล์รากผมที่แข็งแรงด้วยกล้อง Microscope เพื่อให้ได้เซลล์รากผมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  7. ทำการเจาะหนังศีรษะเพื่อเตรียมการปักเซลล์รากผม
  8. ทำการปักเซลล์รากผมที่แข็งแรง ลงบนตำแหน่งที่มีปัญหาบริเวณด้านหน้าศีรษะ

 

ข้อดีเทคนิค FUE

  • ปลูกผมถาวร เทคนิค FUE ไม่ใช่การผ่าตัด
  • ปลูกผมถาวร เทคนิค FUE เจ็บน้อยกว่า
  • ปลูกผมถาวร เทคนิค FUE ไม่เหลือร่องรอยของแผลผ่าตัด
  • เมื่อทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น เพราะเป็นเพียงแผลขนาดเล็ก
  • สามารถเก็บรากผมได้หลากหลายที่ทั้งจากด้านหลังขนหน้าอกหรือหนวด หน้าแข้งได้หมด

ข้อเสียเทคนิค FUE

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ปลูกผมจำนวนกราฟไม่มาก
  • รากผมที่ดึงออกมา มีโอกาสที่บางส่วนจะขาดหรือเสียหายขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์

ศัลยกรรมปลูกผมถาวร เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation)

การปลูกผมแบบ DHI จะเป็นการปลูกผมแบบใหม่ที่ถูกพัฒนามาจาก การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE จะต่างกันตรงขั้นตอนการนำเซลล์รากผมปักลงบนตำแหน่งที่มีปัญหา โดยการปลูกผมเทคนิค DHI นั้น เราใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ชื่อว่า DHI Implanter ลักษณะคล้ายปากกาที่มีความแม่นยำสูง ที่จะทำหน้าที่ในการปักและปลูกเซลล์รากผมภายในครั้งเดียว ซึ่งจะสามารถควบคุมความลึก มุม และทิศทางของรากผมได้ เพื่อให้เส้นผมใหม่ที่ปลูกลงไป มีลักษณะเดียวกันกับไรผมตามธรรมชาติของคุณ และเส้นผมความยาวประมาณ 2-3 ซ.ม. ซึ่งต่างจากเทคนิค FUE แพทย์จะใช้ Forceps เจาะรูก่อนแล้วปักเซลล์รากผมลงไป ซึ่งวิธีการนี้จะเจ็บน้อยกว่า FUE และได้เส้นผมที่แน่นถี่กว่าในปริมาณสูงสุด ไรผมเป็นธรรมชาติมากกว่า การปลูกผมแบบ DHI เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมแบบไม่ต้องเกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ และมีอัตราการอยู่รอดของเซลล์รากผมสูงกว่า 90%

ขั้นตอนการปลูกผมถาวร เทคนิค DHI

  1. แพทย์ทำการตรวจเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อประเมินปัญหาของผู้เข้ารับบริการ
  2. แพทย์แนะนำและพูดคุยร่วมกันกับผู้เข้ารับบริการ เพื่อให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด
  3. แพทย์ทำการวาดพื้นที่กราฟที่ต้องทำการปลูก
  4. แพทย์ทำการโกนผม บริเวณที่ต้องการเก็บเกี่ยวเซลล์รากผม แต่การปลูกผมเทคนิคนี้ ความยาวผมจะมากกว่าแบบอื่นๆ
  5. แพทย์ทำการฉีดยาชา และใช้เครื่องมือที่เป็นหัวเจาะ ขนาดประมาณ 0.8-1.2 มม. เจาะเลือกเซลล์รากผมที่แข็งแรงออกมา
  6. ทำการคัดแยกเซลล์รากผมที่แข็งแรงด้วยกล้อง Microscope เพื่อให้ได้เซลล์รากผมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  7. แพทย์ทำการใช้เครื่องมือเฉพาะทาง DHI Implanter ทำหน้าที่ในการปักและปลูกผม ภายในครั้งเดียว

ข้อดีเทคนิค DHI

  • เจ็บน้อยกว่าแบบ FUE เพราะทำการปักและปลูกเซลล์รากผมภายในครั้งเดียว
  • ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เห็นรอยแผล
  • มีความแม่นยำสูง สามารถควบคุมความลึกมุม และทิศทางของรากผมได้
  • เส้นผมมีความยาวประมาณ2-3 ซ.ม. ทำให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  • ได้เส้นผมที่แน่นถี่กว่าแบบอื่นๆ
  • มีอัตราการอยู่รอดของเซลล์รากผมสูงกว่า90%
  • ได้จำนวนกราฟที่ปลูกมากถึง3,500-4,000 กราฟ
  •  ไม่มีรอยแผลเย็บ

ข้อเสียเทคนิค DHI

  • รากผมที่มีขนาดยาวอาจจะไม่แข็งแรงในช่วงแรกหากสาง เสย หรือหวีอาจทำให้ผมหลุด

นอกเหนือจากการปลูกผมแบบย้ายรากผมแล้วนั้น การทำ Plasma Hair ที่จะช่วยให้การเจริญเติบโตของผมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งนวัฒตกรรมที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทำหลังการปลูกผม เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการงอกใหม่ของผมอีกด้วย

ศัลยกรรมปลูกผม ในแต่ละเทคนิคและขั้นตอนต่างๆ นั้น เหมาะกับเฉพาะบุคคลเท่านั้น ดังนั้นการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผมนั้นสำคัญมากต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด

ปรึกษาและนัดหมาย