7 ปัญหายอดฮิตหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

You are here:

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหมคุ้มหรือไม่

          ใครที่อยากแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ตาโหล หรือมีถุงใต้ตา การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที สังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา การรู้เกี่ยวกับปัญหายอดฮิตที่มักเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้น

          บริเวณใต้ตาเป็นจุดอันตรายมีความเสี่ยงต่อการพลาดเกิดเป็นฟิลเลอร์ก้อนได้ มีคนไข้จำนวนไม่น้อยที่รู้สึกกังวลว่าจะเกิดอันตราย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นศูนย์รวมเส้นประสาทคนไข้จึงกลัวว่าจะทำให้ตาบอด หรือเกิดอาการอักเสบ หรือกังวลว่าฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ซึ่งความกังวลเหล่านี้ล้วนสามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมากหากเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้และเลือกใช้บริการฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่มีคุณภาพและแพทย์ผู้มีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือ

ปัญหาใต้ตาแบบไหนที่ควรฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา

          สำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์ Facebody Clinic แบ่งปัญหาที่พบได้บ่อยออกเป็น 7 กรณี ได้แก่

  1. เกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อ เนื่องจากรู้สึกระคายเคืองหลังฉีดฟิลเลอร์จึงทำให้คนไข้มักขยี้ตา หรือเกาบริเวณใต้ตาบ่อยครั้งจนทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เพราะเชื้อโรคเข้าสู่รอยเข็ม หรือดวงตา
  2. ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว เนื่องจากการนวดหรือถูใบหน้าบ่อย หรืออยู่ในบริเวณที่มีอากาศร้อนทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว
  3. อาการบวมช้ำใต้ดวงตา อาการบวมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากใต้ดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบาง หากต้องการลดอาการบวมสามารถทำได้ด้วยการประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็นอย่างเบามือ
  4. เกิดลมพิษหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เป็นไปได้ว่าจะเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม
  5. เป็นหนองบริเวณที่ฉีด หากพบว่ามีหนองบริเวณที่ฉีดเป็นไปได้ว่าจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อรักษา
  6. ฟิลเลอร์เป็นก้อน หากหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปสักระยะรู้สึกว่าฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการใช้ฟิลเลอร์ปลอม
  7. ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายและชีวิต มักพบในเคสที่ฉีดกับหมอเถื่อน

          จากความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยจึงต้องเลือก ฟิลเลอร์ใต้ตา กับคลินิกที่มีใบอนุญาตโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีใบอนุญาตจากแพทยสภา

วิธีดูแลหลังฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา

          เมื่อทำหัตถการเสร็จเรียบร้อยคนไข้ควรทราบถึงวิธี การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ฟิลเลอร์คงประสิทธิภาพยาวนาน ผลลัพธ์สวยงาม ดังนี้

  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรงดแต่งหน้า หรือทาครีมบำรุงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน รวมถึงลดการสัมผัสใบหน้าที่ทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปบริเวณอื่นบนใบหน้า
  • การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืองดรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน เพื่อลดความสงสัยว่าอาการผิดปกติบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นผื่น คัน บวม แดง เกิดจากอาการแพ้วิตามิน อาหารเสริมหรือแพ้ฟิลเลอร์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ฟิลเลอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดการเกิดอุบัติเหตุจากอาการมึนเมา
  • ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร การดื่มน้ำเยอะ ๆ จะทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพ คนไข้จึงควรจิบน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร
  • หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและสลายไปรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอย่างน้อย 1 – 2 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า คนไข้หลายคนมักสงสัยว่าหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวบริเวณที่ฉีดมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ จึงเผลอลูบหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งพฤติกรรมนี้ส่งผลให้ฟิลเลอร์ผิดรูป

          หลังจากที่ ฟิลเลอร์ใต้ตา เข้าที่ คนไข้สามารถนวด สครับใบหน้าตามปกติได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 7 – 14 วัน

          จะเห็นว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา คือทางเลือกของผู้ที่อยากแก้ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ เบ้าตาลึก ทั้งจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือโรคภูมิแพ้ ที่เห็นผลได้ชัดเจนและใช้เวลาไม่นาน เรียกคืนความมั่นใจให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับใต้ตาได้ไว โดยเพื่อความปลอดภัยควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ