กำจัดขน ไม่ต้องโกน เผยผิวเนียนใส
วิธี กำจัดขน มีหลายวิธีให้เลือกด้วยกัน แต่ละวิธีกำจัดขนนั้นจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ให้เลือกใช้วิธีที่เหมาะสมที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการกำจัดขนตรงตามต้องการ ซึ่งวิธีการกำจัดขนที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี กำจัดขนด้วยการถอนขน, วิธีการโกนขน, กำจัดขนวิธีการแว็กซ์, กำจัดขน ใช้ครีม, กำจัดขน วิธีการเลเซอร์, กำจัดขนด้วย IPL
การกำจัดขน ปัญหากวนใจของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือหนุ่มๆที่ต้องการความมั่นใจ ในการโชว์เรือนร่าง และ “ขน” คือปัญหาจุกจิกใจ ไม่ว่าจะเป็นขนบริเวณใบหน้า เช่น หนวด เครา ไรขนบนใบหน้า เป็นต้น และขนตามเรือนร่าง เช่น ขนแขน ขนขา ขนหน้าอก ขนรักแร้ หรือขนบริเวณน้องสาว น้องชาย การกำจัดขนถาวรจึงเป็นอีกทางเลือกของใครหลายคน
ทำความรู้จักกับ “เส้นขน” ก่อนโดนกำจัด
หากพูดถึงเส้นขน หรือขน นั้นอยู่กระจายหลายจุดทั่วบริเวณร่างกาย และแต่ละตำแหน่งของขนก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างออกไปตามบริเวณต่างๆ เช่น ผม คิ้ว เครา หนวด ล้วนแล้วแต่เป็นเส้นขนทั้งหมด “ขน” นั้นมีส่วนประกอบหลักเป็นเส้นใยโปรตีน ที่เรียกว่า “เคราติน” เช่นเดียวกับในเล็บ โดยโปรตีนชนิดนี้จะงอกขึ้นมาจากรูขุมขนภายใต้ชั้นผิวหนัง ทั้งนี้ เส้นขนแต่ละส่วนบนร่างกายมีลักษณะและหน้าที่แตกต่างกัน เส้นขนบนใบหน้าบริเวณแก้มหรือหน้าผากจะมีสีค่อนข้างอ่อน ขณะที่ขนตา ขนคิ้ว ขนจมูก ผม และขนตามแนวสันกรามของผู้ชาย หรือขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมักมีสีเข้มกว่า ทั้งยังมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปตามวัยหรือสุขภาพ
ลักษณะของเส้นขน
ขน หรือ เส้นขนนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ขนอ่อน หรือ ขนเวลลัส (Vellus Hair) และ ขนเทอร์มินัล (Terminal Hair) ที่เส้นขนหนา
ขนเวลลัส (Vellus Hair)
เป็นขนอ่อนที่มีลักษณะสั้น บาง และสีอ่อน มักพบตามใบหน้าบางส่วน หน้าอก และหลังของผู้หญิง แต่ผู้หญิงบางคนอาจมีขนชนิดนี้สีเข้มและสังเกตเห็นได้ชัดกว่าคนอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีสีผิวค่อนข้างคล้ำ ซึ่งขนเวลลัสนี้มีหน้าที่รักษาอุณหภูมิของร่างกายบริเวณนั้น ๆ ให้คงที่
ขนเทอร์มินัล (Terminal Hair)
มีลักษณะเส้นใหญ่ หนา และยาวกว่าขนประเภทแรก โดยทั่วไปเป็นเส้นผมบนหนังศีรษะ ขนรักแร้ หรือขนบริเวณจุดซ่อนเร้น แต่ในผู้ชายจะพบขนชนิดนี้ตามใบหน้าและร่างกายส่วนอื่นด้วย เช่น หน้า ขา หรือหลัง โดยมีหน้าที่ช่วยปกป้องผิวหนังจากการกระแทกและเสียดสี
กำจัดขน มีกี่ประเภท
ในปัจจุบันการกำจัดขนมี 2 ประเภท คือการกำจัดขนแบบถาวร และการกำจัดขนแบบชั่วคราว
การกำจัดขนแบบชั่วคราว
การกำจัดขนแบบชั่วคราวนั้น มีความนิยมมาตั้งแต่สมัยก่อน จนถึงปัจจุบัน การกำจัดขนแบบชั่วคราวนั้นมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่วิธีเบสิกที่ทุกคนรู้จักกัน คือการถอน การโกน และการแว็กซ์
การถอน
การกำจัดขน ด้วยวิธีการถอน วิธีกำจัดขนแบบชั่วคราวด้วยการใช้แหนบหรือที่ถอนขนดึงเส้นขนออกมาทั้งเส้น มักใช้ถอนขนเฉพาะส่วนหรือตามบริเวณที่ขนขึ้นไม่มาก การถอนควรดึงเส้นขนบริเวณโคน เพื่อไม่ให้ขาดออกจากกัน โดยผลลัพธ์หลังการทำจะคงอยู่ประมาณ 3-8 สัปดาห์ จึงจะมีเส้นขนงอกขึ้นมาใหม่
การโกน
การกำจัดขน ด้วยวิธีการโกน วิธีการกำจัดขนแบบชั่วคราวโดยใช้มีดโกนหรือเครื่องโกนขนไฟฟ้า ผู้ชายนิยมใช้วิธีนี้กำจัดขนบริเวณใบหน้าหรือโกนหนวด และผู้หญิงมักโกนขนบริเวณใต้วงแขน ขา หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น ข้อดีคือค่าใช้จ่ายน้อย และใช้เวลาไม่มาก แต่ขนจะขึ้นใหม่ภายใน 1-3 ทำให้ต้องโกนบ่อย ๆ นอกจากนี้ หลังโกนอาจเกิดผื่นแดง ตุ่มนูน ระคายเคืองผิว มีขนคุด เกิดรอยบาด หรือติดเชื้อจากใบมีดโกนได้
กำจัดขนถาวร ด้วยการแว๊กซ์
การกำจัดขน ด้วยวิธีการแว๊กซ์ วิธีการกำจัดขนแบบชั่วคราวโดยการแวกซ์ใช้กำจัดขนได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น ใบหน้า ใต้วงแขน ขา หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งก่อนแวกซ์ควรปล่อยให้เส้นขนยาวอย่างน้อย 6 มิลลิเมตร เพื่อช่วยให้แวกซ์ได้ง่ายและไม่ต้องทำบ่อยครั้ง โดยระยะเวลาที่ขนจะงอกขึ้นมาใหม่อยู่ที่ประมาณ 3-6 สัปดาห์ วิธีนี้ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ขนที่ขึ้นใหม่มีลักษณะบางและไม่แข็งเหมือนการโกน แต่อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย และมักเกิดรอยแดงหรือตุ่มนูนหลังทำ นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ควรหลีกเลี่ยงการแวกซ์ขนหากผิวไหม้จากการตากแดดจัด หรือกำลังใช้ยารักษาสิวบางชนิดที่มีผลให้ผิวบอบบางลง
การกำจัดขนแบบถาวรนั้น มีวิธีการไม่ยุ่งยาก ขนจะค่อยๆ ลดลงจากการรักษาหลายๆ ครั้ง และไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาขนคุดเหมือนที่เกิดในวิธีแบบชั่วคราว ปัจจุบันวิธีการกำจัดขนแบบถาวรที่นิยมและได้ผลดีมาก การกำจัดขนแบบถาวรนั้นมี 2 วิธี คือการกำจัดขนแบบถาวรด้วยวิธีการจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื้นวิทยุ และ การกำจัดขนแบบถาวรด้วยวิธีการเลเซอร์
กำจัดขนถาวร ด้วยวิธีการจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื้นวิทยุ
สามารถกำจัดขนได้ถึงรากขน จึงได้ผลดีมาก ขนที่ถูกกำจัดออกไปแล้วจะไม่ขึ้นมาใหม่อีก มีขั้นตอนการทำโดยแพทย์จะใช้เข็มเล็ก ๆ สอดเข้าไปที่รูขุมขน ใช้ปฏิกิริยาทางเคมีหรือความร้อน หรือผสมผสานทั้ง 2 วิธีเข้าด้วยกันเพื่อทำลายรากขนโดยเฉพาะ ก่อนทำต้องใช้การประคบเย็นเพื่อทำให้ชา หรือบางบริเวณอาจต้องทาหรือฉีดยาชา วิธีนี้สามารถใช้กำจัดขนถาวรได้ 100% แต่ต้องทำจำนวนครั้งมากพอ ซึ่งจำนวนจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับปริมาณขนของแต่ละคนที่มีมากน้อยไม่เท่ากัน
กำจัดขนถาวร ด้วยวิธีการเลเซอร์
การกำจัดขนแบบถาวร ด้วยวิธีการเลเซอร์ ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากใช้ระยะเวลาไม่นานและได้ผลดี การกำจัดขนโดยการเลเซอร์นั้นมีแตกออกมาเป็น 5 ประเภทการเลเซอร์ขน ได้แก่ IPL, Nd:YAG, Diode, Alexandrite และ Ruby
IPL (Intense Pulsed Light)
IPL หรือ Intense Pulsed Light ที่จริงแล้วไม่ใช่เลเซอร์ แต่เป็นหนึ่งในวีธีกำจัดขนที่นิยมมาก ในขณะที่เลเซอร์จะเป็นการยิงลำแสงเป็นจุดๆ ทีละครั้ง ส่วน IPL จะเป็นการยิงลำแสงสเปกตรัม ซึ่งเป็นลำแสงในวงกว้างกว่า รอบข้างก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย อาจทำให้ผิวแดงและบวมได้ การใช้วิธีนี้นั้นทำให้ยังคงขนที่งอกขึ้นมาใหม่หลังจากทำเลเซอร์ไป 1-2 เดือน เมื่อทำ IPL ซ้ำหลายๆ ครั้ง ขนที่ขึ้นมาใหม่จะมีสีที่อ่อนกว่าและเส้นบางกว่า
IPL (Intense Pulsed Light)เหมาะสำหรับ
คนที่มีผิวขาว เหลือง และที่มีงบจำกัดพราะราคาจะถูกกว่าเลเซอร์ตัวอื่น
IPL (Intense Pulsed Light) บริเวณที่นิยมใช้
ใบหน้า ขา หลัง บิกินี่ รักแร้ และส่วนที่บอบบางต่างๆ นอกจากนั้น IPL ยังนิยมใช้เป็นทรีตเม้นต์หน้าใส หรือลบรอยสิว รอยแดง ฝ้า กระ
Nd:YAG
Nd:YAG หรือ YAG (อ่านว่า “แย๊ก”) หรือ Gentle YAG เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่นิยม ความยาวของลำแสง 1,064 nm อนุภาพแสงเลเซอร์ค่อนข้างจะรุนแรงถึงขั้นสามารถลบรอยสักได้ และก่อนทำจะมีการใช้ Carbon lotion ลงบนผิวเพื่อที่ช่วยในการดูดซึมลำแสงเลเซอร์ ทำให้กำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพล้ำลึก
Nd:YAG เหมาะมากๆสำหรับ
คนที่ผิวสองสี ผิวสีแทน หรือผิวสีเข้มๆ เพราะ Nd:YAG ไม่ได้จับเม็ดสีผิวได้ดีเท่าเลเซอร์ขนตัวอื่น จึงเหมาะมากสำหรับสาวเอเชีย รับรองไม่มี รอยไหม้ รอยด่างดำที่พบบ่อยหลังการทำ IPL
Nd:YAG บริเวณที่นิยมใช้
จุดที่ต้องเก็บรายละเอียดเล็กๆ เช่น ใบหน้า หนวดเครา และ รักแร้ แต่ก็เป็นที่นิยมสำหรับเลเซอร์ขา แขน บิกินี่ เช่นกัน นอกจากนั้น Nd:YAG ยังนิยมใช้เป็นเลเซอร์ช่วยให้ผิวขาวใส ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และลดขนาดรูขุมขน
Diode
Diode (อ่านว่า “ไดโอด”) นั้นเป็นเลเซอร์ ที่มีความยาวของคลื่นที่หลากหลาย เช่น 800-810 nm, 940 nm, 1,064-1,350 nm ทำให้สามารถปรับความยาวของคลื่นให้เหมาะสมกับสีผิวและความเข้มของสีขนได้ โดยเลเซอร์ชนิดนี้ส่วนใหญ่ที่นำเข้าในไทย จะมีขนาด 800-810 nm
Diode Laser เหมาะมากสำหรับ
คนที่มีผิวขาว และผิวสองสี
Diode Laser บริเวณที่นิยมใช้
แขน ขา และ บริเวณกว้างๆ เพราะ Diode Laser ต้องใช้เจลเย็นในการลดความร้อนระหว่างทำ จึงอาจไม่เหมาะกับการทำที่ผิวหน้าหรือในบริเวณเล็กๆ ที่ต้องการความละเอียดเป็นพิเศษ
Alexandrite
Alexandrite (อ่านว่า “อเล็กซานไดร์ท”) มีความยาวคลื่นที่สั้นขึ้นมา นั่นก็คือ 755 nm เป็นเลเซอร์ทางการแพทย์ ที่ทำงานโดยการส่งแสงตามความยาวคลื่นไปกำจัดเสว้นขน พลังงานที่ใช้มีประทิสธิภาพและปลอดภัย ระยะเวลาในการทำ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 ครั้ง หรือตามแพทย์แนะนำเพื่อการงอกใหม่ของเส้นขนที่ช้าลง
Alexandrite เหมาะมากสำหรับ
คนที่มีผิวขาว ไปจนถึงที่มีสีผิวน้ำผึ้ง undertone เหลือง
Alexandrite บริเวณที่นิยมใช้
บริเวณวงกว้างมาก นิยมมากที่เลเซอร์ขา
Ruby Laser
Ruby (อ่านว่า “รูบี้” หรือเลเซอร์ทับทิม) แสงเลเซอร์จะทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติโดยไม่ทิ้งร่อยรอยแผลเป็น อาจต้องทำหลายครั้งขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มของกระลึก, รอยสักต่างๆ หรือรอยสักคิ้ว ระยะห่างในการทำอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป มีความยาวคลื่น 694 นาโนเมตร ให้พลังงานสูงถึง 10J/cm2 มีความช่วงเวลาที่แสงออกไปสั้นมากเพียง 24 นาโนวินาที
Ruby Laser เหมาะมากสำหรับ
เป็นเลเซอร์ที่นิยมมากในฝั่งยุโรป
Ruby Laser บริเวณที่นิยมใช้
แขน ขา บริเวณที่เน้นการกำจัด ที่เม็ดสีผิวบริเวณนั้นมีสีเข้ม หรือบริเวณที่มีรอยสัก
การกำจัดขนด้วยวิธีต่าง ๆ มักให้ผลลัพธ์ในระยะสั้น ไม่นานขนก็งอกใหม่และยาวขึ้นเหมือนเดิม ซึ่งระยะเวลาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละวิธี หากเป็นการกำจัดขนด้วยการกำจัดขนแบบชั่วคราวและการกำจัดขนแบบถาวร หรือเลเซอร์อาจช่วยกำจัดขนได้นานกว่า อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีกำจัดขนขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคลเป็นหลัก แต่อย่างน้อยควรเป็นวิธีที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากเกินไปหรือผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา
กำจัดขนถาวร ที่ไหนดี
การกำจัดขนที่ได้ผลดี ดังนั้น จึงควรศึกษาข้อดี ข้อจำกัด และความปลอดภัยของวิธีกำจัดขนให้ถี่ถ้วนเสียก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือต้องรับประทานยาเป็นประจำ โดยอาจขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุด
Facebody Clinic ใช้เครื่องTrio Clear ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด และถือเป็นวิธีการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด Trio Clear เป็นเครื่องเลเซอร์ 3 พลังงาน ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถทำลายเซลล์เม็ดสีเมลานินในรูขุมขน บริเวณเส้นขนเเละรากขนได้อย่างลงลึกถึงรากถึงโคน จนไม่เหลือตอ เเถมยังสามารถดูดซับเซลล์เม็ดเลือดแดง เพื่อทำลายต้นกำเนิดผลิตขนอย่างเส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงรากขนกับเนื้อเยื่อได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งการกำจัดขนของเครื่องนี้ จะอาศัยพลังความร้อนส่งไปถึงผิวหนังระดับชั้นส่วนลึก ไม่ใช่แค่ชั้นตื้นเหมือนเครื่องทั่วๆไป นอกจากนี้ Trio Clear ยังสามารถช่วยหยุดการเติบโตของเส้นขน ทั้งขนเก่าเเละขนใหม่ที่กำลังจะเกิด ให้ลดน้อยลงเเละจางหายไปอย่างถาวรอีกด้วย หลังจากทำไปเพียงไม่กี่ครั้ง
พลังงานความร้อนจากเเสงเลเซอร์ที่ยิงเข้าไปเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ใต้เส้นขนเเละรากขน ในบริเวณที่เราต้องการกำจัดออก เพื่อผิวเรียบเนียนไร้ขนกวนใจ เเละการทำเลเซอร์กำจัดขน ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถปราบขนหนา ขนบาง ได้ลึกถึงรากถึงโคน สามารถทำได้ทุกบริเวณตั้งแต่ใบหน้า แขน ขา รักแร้ ลำตัว และจุดซ่อนเร้น
ประโยชน์ของเครื่อง Trio-Clear
การกำจัดขน ปัญหากวนใจของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือหนุ่มๆที่ต้องการความมั่นใจ ในการโชว์เรือนร่าง และ “ขน” คือปัญหาจุกจิกใจ ไม่ว่าจะเป็นขนบริเวณใบหน้า เช่น หนวด เครา ไรขนบนใบหน้า เป็นต้น และขนตามเรือนร่าง เช่น ขนแขน ขนขา ขนหน้าอก ขนรักแร้ หรือขนบริเวณน้องสาว น้องชาย การกำจัดขนถาวรจึงเป็นอีกทางเลือกของใครหลายคน
- มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนกับผิวทุกประเภท และทุกสีผิว
- กำจัดขนรากลึก จนไม่เหลือตอ ไม่ทำให้เกิดขนคุด เพราะแสงเลเซอร์สามารถส่งพลังงานไปได้ลึกถึงผิวหนังชั้นลึก ทำให้กำจัดรากขนได้ดี
- ทำให้ผิวเรียบเนียน ขาวใส ลดตุ่มหนังไก่ เพราะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
- ไม่ระคายเคืองผิว เพราะมีระบบความเย็นที่ช่วยทำให้ไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนในขณะที่ทำ
- ทำให้ผิวไม่เบิร์นหรือแสบร้อนหลังทำ เพราะเลเซอร์ไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง
- ใช้เวลาไม่นานในการทำแต่ละครั้ง
- ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ได้รับมาตรฐานสากล
ต้องทำTrio Clearบ่อยขนาดไหนจึงจะเห็นผล
เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ Trio Clear เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
การกำจัดขนด้วยTrio Clear ต้องทำต่อเนื่องประมาณ 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจนว่าเส้นขนน้อยลง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ
- การตอบสนองต่อเลเซอร์ของแต่ละคน
- ลักษณะเส้นขน เช่น ความเข้ม ความหนาของเส้นขน
- บริเวณที่กำจัดขน เพราะเส้นขนในแต่ละส่วนของร่างกายก็จะมีอายุไม่เท่ากัน
โดยในช่วงแรกๆ ที่ทำ จะเริ่มสังเกตุว่ามีเส้นขนหลุดร่วงหลังทำ และเส้นขนที่ขึ้นใหม่จะเป็นเส้นอ่อนและบางลงกว่าเดิม เมื่อมีการทำอย่างต่อเนื่อง 4-5 ครั้งก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากขึ้น แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมิน ติดตามผลของการทำTrio Clear และให้คำแนะนำ
โดยปกติ ควรเว้นระยะห่างในการทำแต่ละครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังทำเลเซอร์เส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงภายใน 1 สัปดาห์ และภายใน 2-4 สัปดาห์แรกจะมีเส้นขนอ่อนๆ เกิดขึ้นใหม่ ดังที่กล่าวข้างต้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณขน ลักษณะเส้นขน และสีผิวของแต่ละคนด้วย