ฉีด SCULPTRA คืนคอลลาเจนให้ผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น

sculptra คืนคอลลาเจนผิว ลดริ้วรอย

       เมื่ออายุเข้าสู่วัยกลางคนกลไกการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติในชั้นหนังแท้จะลดลงไปถึง 1 ใน 5 และเมื่อใกล้เข้าสู่วัยผู้สูงอายุคอลลาเจนจะหายไปถึง 1 ใน 3 ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยผิวอ่อนแอไม่ยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยทั้งบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และตีนกา ผิวไม่กระชับและยืดหยุ่นเหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้ใบหน้ากลับมาเปล่งปลั่งตึงกระชับ ดูมีน้ำมีนวลด้วนวัตกรรม SCULPTRA

ทำไมต้องฉีด SCULPTRA​​​

          SCULPTRA  ทำหน้าที่แทนคอลลาเจน ที่มีต่อผิวหนัง รักษาความตึง กระชับ เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว เสริมกระบวนการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ลดเลือนริ้วรอย และความหยาบกร้านของผิวหนัง รักษาสมดุลน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว ปกป้องและสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างชั้นผิวภายใน มีสัดส่วนสูงถึง 75 % ทำหน้าที่ในการเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ สำหรับในผิวหนัง คอลลาเจนมีหน้าที่สำคัญมาก ๆ ในการเป็นโครงร่างผิว ทำให้ผิวมีความกระชับ ยืดหยุ่น และแลดูอ่อนเยาว์ เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนจะลดลงเรื่อย ๆ ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย

sculptra คืนคอลลาเจนผิว ลดริ้วรอย

SCULPTRA​​ คืออะไร ? เหมาะกับใคร?​​

          SCULPTRA เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หลังทำหัตถการอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่สามารถรักษาสภาพผิวได้ยาวนานกว่า 2 ปี และมีปัญหา ผิวหน้าไม่กระชับ หย่อนคล้อย แมีริ้วรอยทั้งบริเวณหน้าผาก มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้คาง ใต้ตามีร่องลึก หรือทั่วใบหน้า ที่เกิดจากกลไกการผลิตคอลลาเจนของร่างกายเสื่อมสภาพลงจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดจากความเครียด ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ผิวพรรณเสื่อมลง
          SCULPTRA เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีความปลอดภัยและไม่เกิดผลกระทบต่อร่างกาย ได้รับการรับรองโดยสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหารและยาทั้งของไทยและต่างประเทศที่มีมาตรฐาน ผู้ที่ต้องการปรนนิบัติผิวให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส เปลี่ยนผิวหน้าที่เคยหมองคล้ำและแห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูมีน้ำมีนวล

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนาน
  • SCULPTRA  เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความกังวลเรื่องรอยยับบนใบหน้า
  • SCULPTRA  เหมาะสำหรับ ลูกค้าที่ผ่านการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อก เลเซอร์ Ultraformer มาแล้ว แต่ยังไม่ตอบโจทย์ปัญหาผิว
  • ลูกค้าที่อยากมีผิวแน่นอิ่มฟู แข็งแรง และดูอ่อนเยาว์ลง
  • SCULPTRA  เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาผิวบาง ดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ดูมีอายุ มีหลุมสิว ผิวไม่แน่น

รีวิว ผู้ที่ฉีด SCULPTRA หลังฉีดทันที

กลไกการทำงาน ของ SCULPTRA​​

          SCULPTRA ก่อนนำไปฉีดเข้าผิวชั้น Subcutaneous บริเวณขมับ หน้าแก้ม ใต้โหนกแก้มด้านข้าง เป็นหลัก ตัวยาจะกระจายตัวไปทั่วชั้นผิว สาร PLLA จะไปเพิ่มปริมาณเซลล์ ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่เป็นตัวสร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวภายใน คอยพยุงผิวหนังชั้นเดอมิส (dermis) หรือผิวหนังชั้นกลางที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยืดหยุ่น ในบริเวณตรงนี้จะพบเซลล์ไฟโบรบลาสท์จำนวนมาก
          นอกจากนี้ สาร PLLA จะเปลี่ยนแปลงเป็นกรดแล็กทิก (Lactic acid) เป็นกรดอยู่ในตระกูลเดียวกันกับ AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเนียนนุ่ม ไปกระตุ้นขบวนการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน ผ่านเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า “แมคโครฟาจ” (Macrophage) ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดที่คอยขจัดสิ่งแปลกปลอมที่หลุดรอดเข้าไปในร่างกายมาช่วยในการทำงาน ส่งผลให้ PLLA ค่อย ๆ สลายไป
          แต่การสะสมของคอลลาเจนยังคงอยู่ สามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง รอยเหี่ยวย่นหรือหลุมลึกดูตื้นขึ้น สามารถรู้สึกได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังรับการรักษาและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขั้นตอนการฉีด SCULPTRA​​

          ลูกค้าเข้ารับการตรวจประเมินสภาพผิว สอบถามปัญหาที่กังวล และรับคำปรึกษาจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญ รวมถึงรับทราบข้อปฏิบัติก่อนและหลังทำ SCULPTRA แปะยาชาในบริเวณที่ฉีด เป็นเวลาประมาณ 45 นาที ในขณะที่แปะยาชา แพทย์จะทำการเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูป Active form โดยผสม SCULPTRA เข้ากับน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ (Sterile water) แพทย์ฉีด Sculptra ที่พร้อมใช้แล้วลงใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G เมื่อฉีดเสร็จแล้ว จะมีขั้นตอนการนวดหน้าเพื่อให้ยากระจายตัวไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการ

หลังฉีด SCULPTRA​​ ดูแลตัวอย่างไร ?

        ควรนวดหน้าตามหลัก Triple 5 วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกัน 5 วัน เพื่อช่วยให้ยากระจายตัวได้ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ำ งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวีให้มากที่สุด จนกว่าอาการบวมและแดงจะหายเป็นปกติ หากต้องการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า เว้นช่วงจากการฉีด 30 วัน

SCULPTRA VS Filler ต่างกันอย่างไร?

         SCULPTRA และ Filler เป็นการรักษาให้ผิวกระชับเต่งตึงที่ดีทั้งสองอย่าง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเลือกการรักษาที่ถูกต้อง หากต้องการมองหาผลลัพธ์ที่ยั่งยืนผลลัพธ์ธรรมชาติกว่ามาก Sculptra จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณกำลังมองหาผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า Filler (ฟิลเลอร์) อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน หากคุณพิจารณาที่จะรับการรักษาด้วย Sculptra หรือ ฟิลเลอร์ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการรักษา

  • ผลลัพธ์ : SCULPTRA ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากกว่าฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ของ Sculptra จะเริ่มปรากฏให้เห็นหลังจากผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะคงอยู่นานถึง 2 ปี ฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า แต่ผลลัพธ์จะคงอยู่ไม่นาน ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะคงอยู่นานประมาณ 6-12 เดือน
  • ความเจ็บปวด : SCULPTRA มักให้ผลข้างเคียงน้อยกว่าฟิลเลอร์ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของ Sculptra คือรอยแดง บวม และเจ็บปวดที่บริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่า เช่น รอยช้ำ และการติดเชื้อ
  • ราคา : SCULPTRArr มีราคาแพงกว่าฟิลเลอร์ ค่าใช้จ่ายของ Sculptra ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งของการรักษาที่แพทย์แนะนำ ค่าใช้จ่ายของฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่เลือกและจำนวนที่ต้องใช้

SCULPTRA

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เหมาะสำหรับ
  • ผู้ที่มีผิวเสื่อมสภาพ
  • ผู้ที่มีผิวไม่กระชับ มีร่องรอย
  • จุดฉีด : ขมับ , หน้าแก้ม, แก้มตอบ
  • ระยะเห็นผล : 2-3 สัปดาห์ (อยู่ได้นาน 2 ปี)

FILLER

เพิ่มวอลลุ่ม เติมเต็มร่องลึก
เหมาะสำหรับ
  • ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกตามใบหน้า และกรอบหน้า
  • ผู้ที่มีร่องลึกชัดบนใบหน้า
  • จุดฉีด : ใบหน้าทุกบริเวณที่มีปัญหา
  • ระยะเห็นผล : เห็นผลทันทีหลังทำ (อยู่ได้นาน 8-12 เดือน)