Mesotheraphy
เมโสหน้าใส หรือ Mesotheraphy เป็นการฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิว โดยใช้เข็มขนาดเล็กในการเจาะผ่านเข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง (เรียกว่าชั้น Meso) เพื่อนำสารจำพวกมัลติวิตามิน แอนติออกซิเดนท์ หรือสารบำรุงผิวตัวอื่น ๆ ไปยังชั้นผิวหนังด้านใน ซึ่งเป็นส่วนผสมของครีมที่ดูดซึมยาก ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวให้เต่งตึงคล้ายผิวแอปเปิ้ล
เพื่อบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่างๆ บนผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส ลดการอักเสบ ช่วยขับสารพิษที่สะสมและทำให้ผิวแข็งแรง รูขุมขนดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำและรอยสิวดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวหน้ามีความสดใสมากยิ่งขึ้น
คำว่าเมโสมาจากคำว่า meso แปลว่าตรงกลางหมายถึงการฉีดลงใน “ ชั้นกลางของผิว ”
– วัตถุประสงค์ของ Mesotherapy
Mesotherapy ถูกนำมาใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น:
- ฟื้นฟูผิวหน้า: ช่วยปรับปรุงความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอย
- ลดไขมันส่วนเกิน: ใช้ลดไขมันในบริเวณเช่น ใต้คาง ต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก
- ลดเซลลูไลท์: ช่วยกระชับผิวและลดความไม่เรียบของผิว
- กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม: ช่วยแก้ปัญหาผมบางหรือผมร่วง
- รักษาเม็ดสีผิว: ลดจุดด่างดำและปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
– กระบวนการทำ Mesotherapy
- ฉีดสารเข้าสู่ผิว: โดยใช้เข็มขนาดเล็กหรือเครื่องมือเฉพาะทาง
- สารที่ฉีดจะขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น สารเพิ่มความชุ่มชื้น (Hyaluronic Acid) วิตามินซี หรือสารที่ช่วยสลายไขมัน
- ใช้เวลาทำประมาณ 20-30 นาทีต่อครั้ง และมักต้องทำหลายครั้งต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การฉีดเมโสหน้าใส มีกี่แบบ
เมโสหน้าใส มีวิธีการฉีดด้วยกัน 2 แบบ
1. การฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด
การฉีดเมโส แบบสะกิดนั้นเป็นวิธีการใช้เข็มฉีดยาสะกิดผิวหน้าเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า เพื่อให้วิตามินซึมซาบเข้าสู่ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว
2. การฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด
การฉีดเมโสแบบ 16 จุด นั้นเป็นวิธีการใช้เข็มฉีดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้วิตามินให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว ซึ่งวิธีการฉีดแบบนี้จะทำให้เกิดแผลได้น้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า รอยช้ำลดลง ประสิทธิภาพของยาออกฤทธิ์ได้ยาวนานมากขึ้น
– เมโสหน้าใส เห็นผลภายในกี่วัน
ในการฉีดเมโส ในช่วง 1 เดือนแรกจะฉีดอาทิตย์ละครั้ง และหลังจากนั้นจะฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงสภาพของเมโสไว้ และเมโสหน้าใสไม่มีแบบถาวร จะสลายหมดไม่มีสารตก
- เริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด
- เห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน
- อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน
– เมโสช่วยเรื่องอะไรบ้าง
สารที่ฉีดเข้าไปเป็นสารบำรุงที่มีประโยชน์ต่อผิว ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ลดริ้วรอย และหน้าเรียบเนียนสม่ำเสมอ แต่เนื่องจากผิวหน้าของแต่ละคนมีลักษณะต่างกัน แพทย์จะทำการตรวจประเมินเพื่อจะได้ทราบว่าผิวหน้าของแต่ละบุคคลนั้นเหมาะกับเมโสตัวไห ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
- เน้นหน้าขาว มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เช่น Vitamin A, B,C และ E, Transamin และ Glutatione
- เน้นหน้าใส จะมีส่วนผสมของคอลลาเจน และ โคเอนไซม์ เป็นหลัก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวฟูขึ้น กระชับรูขุมขน
- เน้นลดสิว-แก้ผื่น จะช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก ช่วยลดสิว
-เมโสหน้าใสเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดเมโสหน้าใสนั้นเพื่อฟื้นฟู และบำรุงผิวหน้า ลดสิว และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส เป็นการย่นระยะเวลาในการดูแลตนเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า สวยแบบด่วนๆ
- คนที่ขี้เกียจทาครีม และต้องการผลที่ไวกว่าการทาครีม
- คนที่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง อดนอน ทำงานหนัก
- คนที่มีปัญหาสิวและผดผื่น หน้าไม่เนียน
-ข้อดี ข้อเสียของการฉีดเมโสหน้าใส
ข้อดีของเมโสหน้าใส
• เป็นการให้สารบำรุงผิวที่เห็นผลได้ไวกว่าการทาครีมบำรุงผิว
• ไม่ต้องพักฟื้นรอยแดงสามารถหายไปได้ภายในสามวัน
• ช่วยรักษาปัญหาของผิวได้อย่างเร่งด่วน เช่น สิว รูขุมขนกว้าง เป็นต้น
ข้อเสียของเมโสหน้าใส
• อาจเกิดอาการแพ้ อักเสบหรือฟกช้ำได้หากไม่ได้รับการฉีดที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ
• เป็นการบำรุงผิวหน้าระยะสั้นเพราะตัวยาจะสลายหายไปภายในสองเดือน จึงทำให้ต้องฉีดบ่อยๆ
-ฉีดเมโสที่ไหนดี
การเลือกฉีดเมโสหน้าใสนั้น จะต้องตัดสินใจเลือกจากความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาล หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในความปลอยภัยของผู้รับบริการ ที่ Facebody Clinic ได้รับความมั่นใจจากผู้รับบริการหลากหลายท่าน ที่นำทีมโดยนายแพทย์ธีร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและจักษุ